อัตราค่าส่ง มีอยู่กี่รูปแบบ อะไรบ้าง

อัตราค่าส่ง

การจัดส่งสินค้าทุกครั้งย่อมมีค่าส่งซึ่งบริษัทขนส่งโลจิสติกส์แต่ละแห่งมีการคิดราคาที่แตกต่างกัน สินค้ามีอยู่หลายขนาดตั้งแต่เล็ก กลาง และใหญ่ นอกจากนี้ระยะทางที่ใช้ก็ต่างกันด้วย ส่งผลให้อัตราค่าส่งก็คิดราคาไม่เหมือนกัน บทความนี้จะมากล่าวถึงรูปแบบของอัตราค่าจัดส่งว่ามีอะไรบ้าง

อัตราค่าส่ง คืออะไร

การขนส่งสินค้าเป็นการย้ายพัสดุจากสถานที่หนึ่งไปสู่สถานที่หนึ่งผ่านทางบริษัทขนส่ง แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกแห่งจะสามารถส่งฟรีได้ เพราะส่วนใหญ่แล้วมีการคิดอัตราค่าส่งด้วย โดยจะเป็นเงินจำนวนหนึ่งที่แม่ค้าออนไลน์เก็บกับลูกค้านอกเหนือจากค่าชำระที่สั่งซื้อไป เพื่อใช้เป็นค่าขนส่งนั่นเอง ผู้ซื้อของต้องจ่ายพร้อมกับสินค้า หากคุณเป็นแม่ค้า สามารถเลือกได้ว่าต้องจัดส่งอย่างไรด้วยอัตราค่าส่งเท่าไหร่ ตัวเลือกจะปรากฏบนหน้าจอลูกค้า ตั้งค่าได้ว่าให้เลือกแค่อย่างเดียว หรือมีหลายตัวเลือก

อัตราค่าจัดส่งรูปแบบต่าง ๆ

รูปแบบของอัตราค่าส่งสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ดังนี้

  • อัตราค่าจัดส่งแบบตายตัว

เป็นจำนวนเงินค่าส่งแบบเฉพาะเจาะจงที่เก็บโดยตรงกับลูกค้าพร้อมคำสั่งซื้อ แบ่งย่อยได้เป็น

  • อัตราทั่วไป เป็นการคิดราคาแบบไม่นึกถึงสินค้าในตะกร้า
  • อัตราค่าส่งที่คิดตามราคา เป็นการตั้งราคาในตะกร้าราคาต่ำสุดถึงสูงสุด
  • อัตราที่คิดตามน้ำหนัก เป็นค่าส่งตามน้ำหนักของสินค้าตั้งแต่ต่ำสุดถึงสูงสุด
  • อัตราค่าจัดส่งแบบส่งฟรี

เป็นการจัดส่งฟรีเมื่อตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด กล่าวถึง ถ้าลูกค้าซื้อสินค้าตามราคาที่กำหนดก็จะส่งฟรีให้นั่นเอง

  • อัตราค่าจัดส่งหลังคำนวณ

เป็นตัวเลขของค่าส่งที่ทางแอปหรือผู้ให้บริการเพิ่มเข้าไปในร้านค้า เมื่อมีลูกค้ามาชำระเงิน ข้อมูลสินค้าในตะกร้าก็จะส่งยังแอปหรือผู้ขนส่ง หลังคำนวณเสร็จก็จะทำการส่งจำนวนเงินที่ต้องจ่าย ค่าส่งรูปแบบนี้แบ่งย่อยได้เป็น

  • อัตราค่าส่งที่ผู้ขนส่งคำนวณ
  • อัตราค่าส่งที่ใช้แอปคำนวณ
  • อัตราวิธีส่งภายในพื้นที่

สามารถตั้งตัวเลือกการส่งและการรับสินค้าในพื้นที่ให้ลูกค้าบริเวณใกล้เคียง แบ่งย่อยเป็น

  • การส่งในพื้นที่ เป็นการจัดส่งด้วยวิธีต่าง ๆ โดยมีตัวเลือกให้ลูกค้าในขณะชำระเงิน
  • การรับสินค้าในพื้นที่ เป็นการให้ตัวเลือกลูกค้าว่าซื้อสินค้าได้ที่ไหน วิธีนี้ช่วยประหยัดค่าส่งได้มาก

จากบทความจะเห็นได้ว่าอัตราค่าส่งมีอยู่หลายรูปแบบและสามารถแบ่งย่อยได้อีกมากมาย ด้วยความหลากหลายของวิธีการจัดส่งสินค้านี้ ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกเยอะและมีอิสระการตัดสินใจว่าควรเลือกจ่ายค่าส่งแบบไหน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาด น้ำหนัก ปริมาณพัสดุ รวมถึงระยะทางขนส่งด้วย